#ถุงมือกันความร้อน #ถุงมือกันความเย็น
ถุงมือกันความร้อน ถุงมือกันความเย็น คืออะไร
การทำงานด้านอุตสาหกรรม อาจจะต้องเผชิญทั้งสารเคมี, สารพิษ, สภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย รวมถึงการทำงานในสภาพแวดล้อมหรือต้องมีการสัมผัสกับวัสดุและอุปกรณ์ที่มีความร้อนหรือเย็นมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ทำงานจะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันอย่างถุงมือกันความร้อนและถุงมือกันความเย็น เพื่อป้องกันอันตรายและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยคุณสมบัติที่น่าสนใจของถุงมือทั้ง 2 แบบ คือ
1. ถุงมือกันความร้อน
ถุงมือกันความร้อนเป็นถุงมือที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจะมีลักษณะที่ค่อนข้างหนา เพื่อป้องกันความร้อนที่เกิดจากการสัมผัสวัสดุหรือภาชนะต่าง ๆ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น โดยวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตถุงมือกันความร้อน มีตั้งแต่วัสดุธรรมชาติอย่างเช่นผ้าฝ้ายที่มีความหนาพอสมควร จะป้องกันความร้อนให้กับมือที่จับผิวสัมผัสได้ แต่จะใช้ได้กับวัสดุที่มีความร้อนไม่สูงนัก หากต้องใช้กับงานที่มีการสัมผัสกับความร้อนสูงจะใช้ถุงมือกันความร้อนที่ทำมาจากยางไนโตร เพราะมีความหนา ทนทาน และสามารถป้องกันความร้อนได้ดีกว่า
2. ถุงมือกันความเย็น
สำหรับถุงมือกันความเย็นจะเป็นถุงมือที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง หรืออุตสาหกรรมความเย็น ที่ผู้ปฏิบัติงานต้องสัมผัสกับวัตถุที่มีความเย็นจัดตลอดเวลา
เลือกถุงมือกันความร้อนและถุงมือกันความเย็นอย่างไร จึงจะใช้งานได้ดี
การทำงานในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ ถุงมือกันความร้อนและถุงมือกันความเย็นเป็นประจำทุกวัน ผู้ประกอบการควรเลือกถุงมือที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อที่ว่าจะได้ช่วยปกป้องผู้ปฏิบัติงานจากอันตรายในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อถุงมือดังกล่าวมาใช้งาน มีดังต่อไปนี้
1. เลือกวัสดุคุณภาพ
ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพ โดยที่นิยมใช้กันมากคือถุงมือไนโตรที่ผลิตมาจากสารเคมีชนิดพิเศษ ทำให้มีความทนทานสูง ทนได้ทั้งอุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ำ รวมทั้งสารเคมี, น้ำมัน และสารปนเปื้อนอื่น ๆ
2. เลือกความทนทาน
มีความทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย เพราะการทำงานในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ จำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดอันตรายได้ ซึ่งถุงมือกันความร้อนและถุงมือกันความเย็นที่นำมาใช้งาน ควรผ่านมาตรฐานการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการใช้งานได้มากที่สุด
3. ใช้งานได้ปลอดภัย
ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องสวมใส่วันละหลายชั่วโมง หากมีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับอันตรายต่อสุขภาพได้
4. มีความเหมาะสมต่องาน
มีความหนาที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน เพราะในแต่ละส่วนของการทำงานอาจมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน การมีตัวเลือกที่มากกว่าก็จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น
5. ราคาเหมาะสม
มีราคาสมเหตุสมผล เพราะถุงมือเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในการทำงานทุกวันและต้องมีให้ผู้ปฏิบัติงานอย่างเพียงพอ หากมีราคาสูงเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อต้นทุนได้